รับวางท่อ

หลักการสำคัญของการวางท่อระบายน้ำ

ต้องมีความลาดเอียงเหมาะสม

• ท่อควรมีความลาดเอียงอย่างน้อย 1–2% (1–2 เซนติเมตรต่อระยะ 1 เมตร) เพื่อให้น้ำไหลได้ดี

• หากชันเกินไปอาจทำให้ตะกอนค้างในระบบ

เลือกขนาดท่อให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ

• บ้านพักอาศัยทั่วไป: 4″–6″ (100–150 มม.)

• พื้นที่รับน้ำมาก เช่น ลานจอดรถ ถนน: 8″–12″ (200–300 มม.)

เลือกวัสดุท่อตามการใช้งาน

• PVC: ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา เหมาะกับบ้านหรือพื้นที่เล็ก

• ท่อคอนกรีต (RCP): แข็งแรงมาก เหมาะกับงานถนน งานสาธารณะ

• HDPE: ทนทานสูง เหมาะกับงานระบายน้ำปริมาณมาก

ต้องมีบ่อพักในระยะที่เหมาะสม

• ทุกระยะประมาณ 20–30 เมตร

• ทุกจุดเปลี่ยนทิศทางของท่อ

• เพื่อช่วยให้ล้างท่อและซ่อมบำรุงสะดวกขึ้น

พื้นรองท่อต้องแน่นและเรียบ

• ใช้ทรายรองพื้นป้องกันท่อแตกและให้ระดับคงที่

ระบายน้ำออกปลายทางที่ถูกต้อง

• คลองสาธารณะ, บ่อพักรวม, ถังดักไขมัน, ระบบบำบัดน้ำเสีย

• ห้ามปล่อยลงพื้นที่เพื่อนบ้านหรือพื้นที่เอกชนที่ไม่ได้รับอนุญาต

ขั้นตอนการวางท่อระบายน้ำ (แบบง่าย)

1) สำรวจและออกแบบแนวท่อ

• วัดระดับพื้นที่ (Level)
• หาแนวที่น้ำไหลลงต่ำสุด
• คำนวณความลาดเอียงของท่อ

2) ขุดร่องวางท่อ

• ขุดตามระดับที่กำหนด
• ความลึกมากกว่าหน้าท่อประมาณ 20–30 ซม.

3) ปรับพื้นด้วยทรายรองพื้น

• เททราย 5–10 ซม.
• เกลี่ยให้เรียบและแน่น

4) วางท่อตามแนวและระดับ

• เชื่อมต่อให้แน่น
• ตรวจสอบระดับด้วย Waterpass ให้ได้ความลาดเอียงตามต้องการ

5) กลบดินและอัดแน่น

• กลบชั้นละ 20–30 ซม.
• อัดแน่นป้องกันการทรุดตัว

6) ทดสอบการไหลของน้ำ

ปล่อยน้ำทดลองเพื่อเช็คว่ามีจุดตันหรือระดับผิดพลาดหรือไม่

คำแนะนำเพิ่มเติม

• หากพื้นที่มีน้ำมากหรือน้ำท่วมง่าย ควรเพิ่ม รางระบายน้ำตื้น (U-Drain) ร่วมด้วย
• ถ้ามีไขมันปนมาก (ห้องครัว ร้านอาหาร) ต้องติดตั้ง ถังดักไขมัน ก่อนลงท่อ
• ควรใช้ช่างที่มีประสบการณ์ เนื่องจากระดับท่อมีความสำคัญมาก